
เมื่ออากาศในเมืองหลวงเช่นกรุงเทพฯ ที่เคยบริสุทธิ์ ไร้สี และไร้กลิ่น กลายเป็นมลพิษและของเสียที่ไม่มีใครอยากสูดดมให้เต็มปอดอีกต่อไป ‘หน้ากาก’ จึงถูกหยิบขึ้นมาใช้มากกว่าการป้องกันไข้หวัด และเป็นอุปกรณ์สำคัญในการกรองฝุ่นที่หลายคนพกติดตัว โดยเฉพาะในวันที่ฝุ่น PM2.5 อยู่เต็มอากาศไปทั่วประเทศ หน้ากากสุดล้ำนี้ผลิตโดย ATMOS Faceware บริษัทสัญชาตินิวซีแลนด์ ประเทศที่มีอากาศดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเมื่อทีมงานได้เดินทางไปหลายประเทศ แล้วพบว่าไม่ใช่ทุกที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ดั่งเช่นบ้านเกิด อีกทั้งหน้ากากส่วนใหญ่ยังมีเทคโนโลยีที่ตกยุคไม่ทันสมัยและไม่ช่วยให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดี ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงสร้าง Ao Air หน้ากากที่ช่วยแก้ปัญหาและตอบโจทย์สิ่งที่หน้ากากอนามัยธรรมดาๆ ไม่สามารถให้ได้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าหน้ากากตัวนี้ไม่เพียงแต่มาพร้อมดีไซน์ล้ำอนาคตเท่านั้น แต่ประสิทธิภาพในการกรองยังเหนือกว่าหน้ากากกรองฝุ่นทั่วไปแบบเทียบกันไม่ติดเลย
ดีไซน์การออกแบบหน้ากาก Ao Air
แค่ได้เห็นดีไซน์ในรูปก็กินขาดแล้ว หลายคนบอกว่าหน้ากากกรองมลพิษตัวนี้สวยงามดีไซน์ล้ำสมัยราวกับหลุดออกมาจากภาพยนตร์ Sci-Fi แต่นี่คือหน้ากากที่สามารถใช้งานได้จริง และพร้อมจะวางจำหน่ายแล้ว โดยคอนเซ็ปต์การดีไซน์นั้น ทางผู้ผลิตต้องการจะทำให้มันเป็นหน้ากากกรองมลพิษที่ดูไม่น่ากลัวเหมือนหน้ากากชุดกันเคมี ชีวภาพ และรังสี ในทางตรงกันข้ามกลับต้องการทำให้มันสวยงามเทียบชั้นไอเท็มแฟชั่นที่ใส่ไปไหนก็ดูดีไม่มีสะดุด ดังนั้นตัวครอบปาก ครอบจมูกของหน้ากากตัวนี้จึงมีลักษณะโปรงใส ดีไซน์โค้งมนสวยงาม สามารถมองเห็นรอยยิ้มและใบหน้าได้ชัดเจน สามารถพูดสนทนาได้ชัดถ้อยชัดคำเหมือนเดิม การใส่หน้ากากนี้จึงไม่ใช่อุปสรรคต่อการติดต่อสื่อสาร
ความสามารถในการกรองอากาศ
หน้ากาก Ao Air ได้ถูกเปิดตัวไปในงาน CES 2020 ในช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา นอกจากดีไซน์ภายนอกที่สวยงามล้ำสมัยระดับไอเท็มแฟชั่นแล้ว เทคโนโลยีที่อัดแน่นอยู่ด้านในยิ่งเหนือชั้นกว่า เพราะมีการติดตั้งตัวกรองถึง 4 ตัวไว้ที่บริเวณช่องดูดอากาศใต้หูทั้งสองข้าง จากนั้นหน้ากากก็จะกระจายอากาศบริสุทธิ์มายังส่วนหน้าที่เราต้องหายใจ ซึ่ง Ao Air สามารถฟอกอากาศบริสุทธิ์ให้เราได้ถึง 240 ลิตรต่อนาที ทำงานด้วยแบตเตอรี่ได้นาน 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จแต่ละครั้ง ที่เด็ดสุดคือจากการประเมินศักยภาพในการกรองพบว่าสามารถกรองอากาศได้ดีกว่าหน้ากากทั่วไปถึง 50 เท่าเลยทีเดียว นี่ก็คือนวัตกรรมใหม่เพื่อการใช้ชีวิตในชุมชนเมือง สนนราคา ราวๆ 10,000 บาท ถือเป็นหน้ากากที่ราคาค่อนข้างสูงสำหรับผู้คนส่วนใหญ่ แต่ในอนาคตหากฝุ่นยังคงครองโลก หน้ากาก Ao Air สุดไฮเทค อาจคุ้มค่ากับการลงทุน.